Stellantis

Stellantis ผลิตชุดเกียร์ไฮบริดที่อิตาลี

Posted
0Comment(s)

Stellantis เดินหน้าเสริมแกร่งตลาดไฮบริด ผุดโรงงานผลิตเกียร์ eDCT ที่อิตาลี พร้อมจับตาอนาคตโรงงานแบตเตอรี่

อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างเร่งปรับตัวและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์อย่าง Stellantis ก็ไม่นิ่งนอนเฉย ล่าสุดได้ประกาศแผนเสริมความแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฮบริด ด้วยการลงทุนสร้างโรงงานผลิตชุดเกียร์ eDCT (Electrified Dual Clutch Transmission) ณ เมืองแตร์โมลี ประเทศอิตาลี โดยมีกำหนดเริ่มการผลิตในปี 2567

การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ Stellantis ในการผลักดันเทคโนโลยีไฮบริด ชุดเกียร์ eDCT ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังที่ผสานประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและสมรรถนะการขับขี่ให้กับรถยนต์ไฮบริดของ Stellantis สอดรับกับความต้องการของตลาดที่มองหารถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

โรงงานแตร์โมลี ซึ่งเดิมทีเป็นฐานการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงสายการผลิตเพื่อรองรับการผลิตชุดเกียร์ eDCT การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมุ่งสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างชัดเจน Stellantis มองว่าเทคโนโลยีไฮบริดจะเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างยุคของเครื่องยนต์สันดาปภายในและยุคของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม แม้ Stellantis จะแสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด แต่แผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของบริษัทยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการผลิตแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Stellantis ร่วมทุนกับบริษัท TotalEnergies ในการก่อตั้งบริษัท Automotive Cells Company (ACC) เพื่อผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และมีแผนจะตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่เมืองแตร์โมลีเช่นกัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการนี้

ความไม่แน่นอนดังกล่าวอาจส่งผลต่อแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Stellantis ในอนาคต เนื่องจากแบตเตอรี่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญและมีต้นทุนสูงในรถยนต์ไฟฟ้า การมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เป็นของตนเองจะช่วยให้ Stellantis สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตและความมั่นคงในการจัดหาแบตเตอรี่ได้ ดังนั้น การติดตามความคืบหน้าของโรงงานแบตเตอรี่ ACC จึงเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินกลยุทธ์และอนาคตของ Stellantis ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

การตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีไฮบริดและการเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Stellantis ในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ Stellantis ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร และความชัดเจนในแผนการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดต่อไป

**(เนื่องจากไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่แนบมา จึงไม่สามารถใส่ลิงก์ที่มาของข้อมูลได้)**