ภาษีนำเข้าซ้ำเติมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

นโยบายภาษีนำเข้ายุคทรัมป์: ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ และการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า

ในช่วงปี 2560-2563 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ดำเนินนโยบาย “America First” มุ่งเน้นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ รวมถึงแคนาดาและเม็กซิโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อหลายอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังอยู่ในช่วงเติบโต

ผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุดคือต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ล้วนได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าแพงขึ้น ลดความสามารถในการแข่งขัน และกระทบต่อความต้องการซื้อของผู้บริโภค ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอาจลดลง ขัดขวางการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ และการเปลี่ยนผ่านไปสู่การคมนาคมที่ยั่งยืน

นอกจากผลกระทบต่อผู้บริโภคแล้ว นโยบายดังกล่าวยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อซัพพลายเออร์ในสหรัฐฯ ซัพพลายเออร์รายเล็กที่พึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากแคนาดาและเม็กซิโก อาจประสบภาวะขาดทุน และอาจถึงขั้นล้มละลาย ส่วนผู้ผลิตรายใหญ่อาจต้องลดกำลังการผลิต ลดการจ้างงาน หรือย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อลดต้นทุน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐฯ

แม้ว่านโยบายการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์ จะมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศและสร้างงานในสหรัฐฯ แต่ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวม รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า กลับน่ากังวลอย่างยิ่ง การขึ้นภาษีนำเข้า ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลับทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ ในตลาดโลก

ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายดังกล่าวยังอาจส่งผลกระทบต่อนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า การที่ผู้ผลิตต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น อาจทำให้การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว

ในปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดจากนโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การให้เงินอุดหนุน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากนโยบายในอดีต ยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข เพื่อให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ สามารถเติบโตและแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

ที่มา: https://www.instagram.com/p/DH-9EWGokaZ/