อังกฤษเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าราคาแพง

PostedNovember 25, 2025
0Comment(s)

## อังกฤษเตรียมเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหรู: ก้าวสู่ความยั่งยืนหรือภาระใหม่ของผู้บริโภค?

**บทนำ: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอังกฤษ**

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ ประเทศอังกฤษก็เป็นหนึ่งในผู้นำที่สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม นโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของอังกฤษกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยรัฐบาลเตรียมที่จะยกเลิกการยกเว้นภาษีถนนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงกว่า 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) และเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรูเหล่านี้ การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมด้านภาษี ลดภาระโดยรวมของรัฐ และสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่การตัดสินใจนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของอังกฤษอย่างไร และผู้บริโภคจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง?

**เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนโยบาย: ความเป็นธรรมและภาระภาษี**

เหตุผลหลักที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจปรับปรุงกฎหมายภาษีรถยนต์ไฟฟ้าคือเรื่องของ “ความเป็นธรรม” ในระบบภาษีปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าได้รับการยกเว้นภาษีถนน (Vehicle Excise Duty – VED) ซึ่งเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล การยกเว้นนี้มีจุดประสงค์เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูที่มีราคาสูง รัฐบาลเริ่มตระหนักว่าการยกเว้นภาษีให้กับรถยนต์เหล่านี้เป็นการสูญเสียรายได้จำนวนมาก และอาจไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่ยังคงใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันซึ่งต้องเสียภาษีตามปกติ

นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังต้องการหารายได้เพิ่มเติมเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า การปรับปรุงระบบไฟฟ้า และการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ การเก็บภาษีจากรถยนต์ไฟฟ้าหรูจะช่วยให้รัฐบาลมีเงินทุนมากขึ้นในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

**รายละเอียดการเก็บภาษี: รถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มไหนต้องเสียภาษี?**

ตามแผนการของรัฐบาลอังกฤษ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาเริ่มต้น 40,000 ปอนด์ขึ้นไปจะต้องเสียภาษีถนนเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยจะเริ่มเก็บภาษีในอัตรามาตรฐานในปีแรก และหลังจากนั้นจะเสียภาษีในอัตราที่ลดลง รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงกว่า 40,000 ปอนด์ยังจะต้องเสียภาษีเพิ่มเติม (expensive car supplement) หากมีราคามากกว่า 40,000 ปอนด์ เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปีที่สองของการจดทะเบียน

การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูหลายรุ่น เช่น Tesla Model 3 Long Range, Tesla Model S, Porsche Taycan, Audi e-tron และ Mercedes-Benz EQS ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในตลาดอังกฤษ ผู้ที่ซื้อรถยนต์เหล่านี้จะต้องเตรียมพร้อมที่จะจ่ายภาษีเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ

**ผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้า: ความท้าทายและโอกาส**

การเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหรูอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของอังกฤษในหลายด้าน:

* **ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าหรูอาจลดลง:** การเพิ่มภาระภาษีอาจทำให้ผู้บริโภคบางรายลังเลที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรู และหันไปพิจารถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกกว่า หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแทน
* **ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองอาจเติบโต:** ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอาจหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองที่มีราคาต่ำกว่า 40,000 ปอนด์ ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองเติบโตขึ้น
* **ผู้ผลิตอาจปรับกลยุทธ์:** ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอาจพิจารณาปรับกลยุทธ์การตลาด เช่น การลดราคารถยนต์บางรุ่น หรือการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาต่ำกว่า 40,000 ปอนด์ เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
* **การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอาจเพิ่มขึ้น:** รายได้จากการเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหรูจะถูกนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหรูยังอาจสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของอังกฤษ:

* **การพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า:** การเก็บภาษีอาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้า
* **การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก:** การเก็บภาษีอาจส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีราคาถูกกว่า ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศในเมือง
* **การสร้างความตระหนักรู้:** การเก็บภาษีอาจสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับต้นทุนที่แท้จริงของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และความสำคัญของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

**ความท้าทายสำหรับผู้บริโภค: เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง**

สำหรับผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์ไฟฟ้าอาจสร้างความท้าทายหลายประการ:

* **ภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น:** ผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรูจะต้องเตรียมพร้อมที่จะจ่ายภาษีเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเงินส่วนบุคคล
* **การตัดสินใจซื้อที่ซับซ้อนขึ้น:** ผู้บริโภคจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ มากขึ้น เช่น ราคา ภาษี สมรรถนะ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
* **ความไม่แน่นอนของนโยบาย:** นโยบายภาษีรถยนต์ไฟฟ้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ผู้บริโภคจึงต้องติดตามข่าวสารและข้อมูลอย่างใกล้ชิด

**บทสรุป: ก้าวที่สำคัญสู่ความยั่งยืน หรือภาระที่เพิ่มขึ้น?**

การตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษในการเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหรูเป็นก้าวที่สำคัญในการปรับปรุงระบบภาษีและส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างความท้าทายให้กับผู้บริโภคและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในระยะสั้น รัฐบาลและผู้ผลิตรถยนต์จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดผลกระทบเชิงลบและสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน

**แหล่งอ้างอิง:**

* [เว็บไซต์รัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับการเก็บภาษีรถยนต์ (Vehicle Excise Duty)](https://www.gov.uk/vehicle-tax-rate-tables)
* [บทความข่าวเกี่ยวกับแผนการเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในอังกฤษ (ตัวอย่างจากสำนักข่าว BBC, The Guardian, Reuters)](ค้นหาจาก Google News โดยใช้คำหลัก “UK electric car tax”, “UK EV tax changes”)

รับรถที่ : *
คืนรถที่ : *
วัน เวลา รับรถ
แสดงผล (เดือน/วัน/ปี ) am หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน pm หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน
วัน เวลา คืนรถ
แสดงผล (เดือน/วัน/ปี ) แสดงผล (เดือน/วัน/ปี ) am หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน pm หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน
รถที่สนใจ
จำนวนวันที่เช่า *
ชื่อ *
อีเมล *
เบอร์ติดต่อ *


แจ้งจุดรับรถ ลักษณะ และพื้นที่ ที่นำรถไปใช้ *
เวลารับ และจุดรับรถที่ละเอียด ชัดเจน สามารถประเมินค่าเจ้าได้เร็วที่สุด

ประกันภัย

ข้อมูลสำคัญในการเช่า

ส่งข้อความถึง ร้านให้เช่า

Your name *
เบอร์ติดต่อ *
Your email *
เขียนข้อความของคุณ *
โปรบอก รายละเอียดที่คุณมีมากที่สุดที่ทำได้ เพื่อให้การตอบสนองของเจ้าของร้านเร็วที่สุด