จีนคุมส่งออกเทคโนโลยีแบตเตอรี่

Posted
0Comment(s)

จีนเตรียมคุมเข้มส่งออกเทคโนโลยีแบตเตอรี่ กระทบห่วงโซ่อุปทานโลก

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยมีจีนเป็นผู้นำทั้งในด้านการผลิตและการบริโภค ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศแผนจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและดุลอำนาจในอุตสาหกรรมนี้ทั่วโลก

มาตรการควบคุมการส่งออกของจีนครอบคลุมเทคโนโลยีหลักในการผลิตแบตเตอรี่ ตั้งแต่การผลิตขั้วไฟฟ้า อิเล็กโทรไลต์ และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ ไปจนถึงเทคนิคการสกัดและการทำให้บริสุทธิ์ลิเธียมและแกลเลียม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ แม้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตของข้อจำกัด แต่คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้ผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้านอกประเทศจีน

เบื้องหลังมาตรการนี้ จีนมุ่งผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in China 2025” เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศสู่ระดับโลก โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน กระตุ้นนวัตกรรมภายในประเทศ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานภายในจีน ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่พึ่งพาเทคโนโลยีและวัตถุดิบจากจีน อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยี และชะลอการเติบโตของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ผลิตนอกประเทศจีน ได้แก่

* ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ที่สูงขึ้น: การเข้าถึงเทคโนโลยีและวัตถุดิบจากจีนที่ยากลำบากขึ้น อาจบีบให้ผู้ผลิตต้องแสวงหาแหล่งอื่น ซึ่งอาจมีราคาแพงกว่า

* การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช้าลง: การขาดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงจากจีน อาจทำให้การพัฒนาและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ของประเทศอื่นๆ ชะลอตัวลง

* การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น: ผู้ผลิตจีนจะได้เปรียบในตลาด เนื่องจากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและวัตถุดิบในราคาที่ต่ำกว่า

* ความตึงเครียดทางการค้า: มาตรการนี้อาจเป็นชนวนความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป

ในระยะยาว มาตรการของจีนอาจกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ เร่งพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาจีน และสร้างความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทานในประเทศ อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ต้องใช้เวลาและการลงทุนอย่างมาก ในระหว่างนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก จำเป็นต้องเตรียมรับมือกับความผันผวนและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของจีน

การตัดสินใจของจีนครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก

ที่มา: ไม่มีที่มาของข้อมูลที่ชัดเจน อ้างอิงจากโพสต์บน Instagram ที่ไม่ได้ระบุแหล่งข่าว จึงควรติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติม เพื่อยืนยันและอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการนี้