Single User - EV Rent Thai
Black-n-White-Luxury-Rent-Car-Logo-3

EVDMK

🚘 เช่ารถไฟฟ้า กรุงเทพ - ดอนเมือง 🚘
Neta V เพียง 1,300 บาท/วัน
✅ แถมแบต 1 ถัง ⚠️ ไม่ต้องชาร์จคืน
Function คุ้มค่าเกินราคา
♻️ รถไฟฟ้า 100% รองรับ 5 ที่นั่ง
♻️ แบตเต็มวิ่งได้ 384 km
♻️ เซ็นเซอร์กล้องมองหลัง
♻️ ประกันชั้น 1
♻️ ระบบกรองอากาศ PM 2.5
Unverified

Profile Status

คะแนนจากผู้ให้บริการ
0.0/5

ข้อมูลสำคัญ สำหรับเช่า

ประกันภัย

รถ EV เช่า ทั้งหมดในร้าน

0BB386AB-FE34-4C42-BBA1-89D51CB5564B

1,200 ฿ ต่อวัน หากเช่า 7 วัน

รุ่นรถ : NETA V 2023
0.0/5
ดูแล้ว : 1395 คน

16 likes

{{ reviewsTotal }}{{ options.labels.singularReviewCountLabel }}
{{ reviewsTotal }}{{ options.labels.pluralReviewCountLabel }}
{{ options.labels.newReviewButton }}
{{ userData.canReview.message }}

ติดต่อผู้ให้บริการ

Your name *
Your email *
เขียนข้อความของคุณ *
โปรบอก รายละเอียดที่คุณมีมากที่สุดที่ทำได้ เพื่อให้การตอบสนองของเจ้าของร้านเร็วที่สุด

ข้อมูลสำคัญในการเช่า

1. คุณสมบัติของผู้เช่า
ผู้เช่าต้องมีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ ขึ้นไป และในวันที่เช่ารถยนต์ ผู้เช่าต้องนำเอกสารตัวจริงมาด้วย ดังนี้
1.1 บัตรประชาชน
1.2 ใบขับขี่รถยนต์
โดยเอกสารทั้ง 2 รายการต้องไม่หมดอายุ
2. เวลาทำการ
สถานที่เช่าเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 08.00-20.00 น. ผู้เช่าต้องรับรถยนต์และคืนรถยนต์ในเวลาทำการ กรณีรับรถยนต์หรือคืนรถยนต์นอกเวลาทำการ มีค่าบริการเพิ่ม ดังนี้
2.1 กรณีรับรถยนต์หรือคืนรถยนต์ เวลา 20.00-22.00 น. มีค่าบริการเพิ่ม 500 บาท/ครั้ง
2.2 กรณีรับรถยนต์หรือคืนรถยนต์ เวลา 22.00-06.00 น. มีค่าบริการเพิ่ม 1,000 บาท/ครั้ง
2.3 กรณีรับรถยนต์หรือคืนรถยนต์ เวลา 06.00-08.00 น. มีค่าบริการเพิ่ม 500 บาท/ครั้ง
3. สถานที่รับและคืนรถยนต์
ผู้เช่าต้องมารับและคืนรถยนต์ด้วยตนเองที่สนามบินดอนเมืองหรือสำนักงานเช่ารถ หากคืนรถยนต์ ณ สถานที่อื่น มีค่าบริการเพิ่ม สามารถสอบถามราคาได้ที่ผู้ให้เช่า
4. ค่าชาร์จแบตเตอร์รี่
ลูกค้าไม่ต้องชาร์จคืน แต่ควรเหลือแบตเตอร์รีไม่น้อยกว่า 50 %
5. การนับวันในการเช่ารถยนต์
การเช่ารถยนต์แบบขับเอง 1 วัน จะนับเวลาในการเช่าเท่ากับ 24 ชั่วโมง ผู้เช่ารับรถยนต์เวลาใด ก็ให้นับไปอีก 24 ชั่วโมง ถือเป็นการเช่ารถยนต์ 1 วัน หากผู้เช่าคืนรถยนต์ล่าช้าจะมีค่าปรับคืนรถล่าช้าคิดเป็นรายชั่วโมง และหากคืนรถยนต์ล่าช้าเกิน 4 ชั่วโมง ให้ถือเป็นการเช่ารถยนต์เพิ่ม 1 วัน
6. การคืนรถยนต์ล่าช้า
เมื่อผู้เช่าคืนรถยนต์ล่าช้าเกินกว่าเวลาที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาเช่า ผู้เช่าจะต้องจ่ายค่าปรับคืนรถยนต์ล่าช้า โดยมีอัตราค่าปรับ 250 บาท/ชั่วโมง
7. การชำระเงินค่าเช่า
ในวันรับรถยนต์ ผู้เช่าสามารถชำระเงินค่าเช่าโดยการชำระด้วย การโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ให้เช่า หรือชำระด้วยเงินสด
8. เงินมัดจำ
ผู้เช่าจะต้องใช้เงินมัดจำในการเช่ารถยนต์ จำนวน 3,000 บาท
9. การชำระเงินมัดจำ
ผู้เช่าต้องชำระเงินมัดจำในวันรับรถยนต์ โดยการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ให้เช่า หรือชำระเป็นเงินสด
10. การคืนเงินมัดจำ
เมื่อผู้เช่าได้นำรถยนต์มาคืนโดยสภาพปรกติแล้ว ผู้ให้เช่าจะทำการโอนเงินมัดจำคืนให้ผู้เช่าผ่านทางเลขบัญชีธนาคารของผู้เช่าหรือเงินสด ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากคืนรถยนต์ หากรถยนต์คันที่เช่าเกิดอุบัติเหตุ และมีการเข้าซ่อมที่อู่นานกว่า 30 วัน ผู้เช่าจะไม่ได้เงินมัดจำคืน
11. การเช่ารถยนต์เพิ่ม
เมื่อผู้เช่าต้องการเช่ารถยนต์เพิ่มจากสัญญาเช่าเดิม ให้ผู้เช่าแจ้งผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 6 ชั่วโมง และให้โอนเงินค่าเช่าเพิ่ม หรือ ให้ผู้ให้เช่าตัดเงินจากบัตรเครดิต โดยต้องทำให้เสร็จก่อนหมดเวลาในสัญญาเช่าเดิม หากผู้เช่าไม่ชำระเงินให้ทันเวลา จะมีค่าปรับชำระเงินล่าช้า 500 บาท/วัน
12. การติดตามรถยนต์คืน
วันที่และเวลา ที่สิ้นสุดสัญญาเช่า จะระบุไว้ในสัญญาเช่ารถยนต์ ผู้เช่าที่ต้องการเช่ารถยนต์เพิ่มจากสัญญาเช่าเดิม ต้องชำระเงินให้ตรงเวลา หากชำระเงินล่าช้าเกิน 2 วัน ผู้ให้เช่าจะเรียกรถยนต์คืน ขอให้ผู้เช่านำรถยนต์มาคืนผู้ให้เช่า และหากไม่นำรถยนต์มาคืน ผู้ให้เช่าจะส่งพนักงานออกติดตามรถยนต์คืน โดยมีค่าติดตามรถยนต์คืน 5,000 บาท/ครั้ง
13. ประกันภัยสำหรับรถเช่า
ผู้ให้เช่าได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
14.1 เมื่อรถยนต์มีอุบัติเหตุ และต้องใช้ใช้รถยก/รถลาก ผู้เช่าต้องจ่ายค่ารถยก/รถลาก เพิ่มเอง
14.2 หากยางรถยนต์รั่ว ผู้เช่าต้องซ่อม ปะยางมาคืนผู้ให้เช่า หากยางแตกผู้เช่าจะต้องซื้อยางรถยนต์เส้นใหม่ ในยี่ห้อและขนาดยางเดิม โดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนมาคืนรถยนต์ หากผู้เช่าไม่ดำเนินการให้เสร็จ จะมีค่าปรับเพิ่มตามที่ผู้ให้เช่ากำหนด
14.3 อุปกรณ์ภายในรถยนต์ทั้งหมด เช่น เอกสารภายในรถยนต์ เบาะรถยนต์ ยางอะไหล่ แม่แรง กุญแจและอื่นๆ หากอุปกรณ์ที่ผู้เช่าทำชำรุดหรือสูญหายในระหว่างการเช่ารถยนต์ ลูกค้าต้องจ่ายค่าปรับทั้งหมดตามรายการที่ผู้ให้เช่ากำหนด
14. ค่าเสียหายส่วนแรก
ผู้ให้เช่ากำหนดให้ผู้เช่าต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพื่อเป็นแรงจูงใจเชิงลบ ให้ผู้เช่ามีความระมัดระวังในการขับขี่รถยนต์ พึงรักษารถยนต์ที่เช่าเสมือนรถยนต์ของตนเอง หากผู้เช่านำรถยนต์ที่เช่าไปทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเมื่อผู้เช่าเป็นฝ่ายผิด หรือ ไม่มีคู่กรณี หรือ หาคู่กรณีไม่ได้ รวมทั้งเป็นการประมาทร่วมกัน ผู้เช่าต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกให้กับผู้ให้เช่า โดยอัตราค่าเสียหายส่วนแรก มีดังนี้
14.1 จำนวน 3,000 บาทต่อเหตุการณ์ เมื่อรถยนต์เสียหายเป็นรอยครูด สีถลอก
14.2 จำนวน 5,000 บาทต่อเหตุการณ์ เมื่อรถยนต์เสียหายเป็นรอยบุบ ยุบ แตก
15. ค่าขาดประโยชน์
เมื่อรถยนต์มีอุบัติเหตุ ได้รับความเสียหาย โดยเป็นผลมาจากผู้เช่าเป็นฝ่ายผิด ประมาทร่วม หรือ เป็นฝ่ายถูกแต่หาคู่กรณีมารับผิดชอบไม่ได้ ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการที่ผู้ให้เช่าต้องนำรถยนต์เข้าไปซ่อมที่อู่ ซึ่งในระหว่างซ่อม รถยนต์ไม่ได้วิ่งทำรายได้ ทำให้ผู้ให้เช่าขาดประโยชน์จากการปล่อยเช่า ผู้เช่าต้องเป็นผู้ชำระค่าขาดประโยชน์ด้วยมูลค่าเท่ากับ จำนวนวันที่เข้าซ่อม คูณด้วย ค่าเช่ารายวัน ที่ผู้เช่าได้ทำสัญญาเช่าไว้
16. รถยนต์หาย
หากผู้เช่านำรถยนต์คันที่เช่าไปทำหาย ไม่ว่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบชำระเป็นเงินให้กับผู้ให้เช่า ตามอัตราที่ผู้ให้เช่ากำหนด แต่จะไม่เกินราคารถยนต์ที่ซื้อมาจากผู้จัดจำหน่ายรถยนต์
17. รถยนต์ไฟไหม้ น้ำท่วม
เมื่อผู้เช่านำรถยนต์คันที่เช่าไปทำให้เกิดไฟไหม้ หรือ น้ำท่วม โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดจากการกระทำของผู้เช่าหรือไม่ เช่าจะต้องรับผิดชอบชำระเป็นเงินให้กับผู้ให้เช่า ตามอัตราที่ผู้ให้เช่ากำหนด แต่จะไม่เกินราคารถยนต์ที่ซื้อมาจากผู้จัดจำหน่ายรถยนต์
18. การคืนรถยนต์ก่อนกำหนด
เมื่อผู้เช่าต้องการคืนรถยนต์ก่อนกำหนด ตามเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเช่ารถยนต์ ผู้เช่าต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน โดยผู้เช่าสามารถคืนรถยยนต์ก่อนกำหนดได้ แต่จะไม่ได้รับค่าเช่าที่ชำระมาแล้วคืน
19. การสิ้นสุดสัญญาเช่า
เหตุการณ์ต่อไปนี้ ให้ถือว่าสัญญาเช่ารถยนต์เป็นอันสิ้นสุดลง ได้แก่
20.1 เมื่อครบกำหนดระยะเวลาเช่าตามปรกติ
20.2 เมื่อผู้เช่าไม่ชำระเงินค่าเช่า ค้างชำระเกินกว่า 2 วัน ขึ้นไป
20.3 เมื่อผู้เช่านำรถยนต์ไปจำนำ ฝากจอด กับผู้อื่น โดยได้รับเงินตอบแทนจากการกระทำนั้น และไม่ได้ครอบครองรถยนต์คันที่เช่ามาด้วยตนเอง ตามวัตถุประสงค์การเช่าเพื่อใช้งานปรกติ
20.4 เมื่อผู้เช่านำรถยนต์ไปประสบอุบัติเหตุรุนแรง จนไม่สามารถขับต่อได้
20.5 เมื่อผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่า เพราะผู้เช่านำรถยนต์ไปใช้ผิดประเภท หรือ ไม่ได้รับอนุญาติจากผู้ให้เช่า
20. การใช้รถยนต์
21.1 ผู้เช่าต้องใช้งานรถยนต์ในกิจธุระอันปรกติ ห้ามนำไปใช้เพื่อการแข่งขัน การทดลอง หรือ การใช้งานขับลุยน้ำ ลุยโคลน อันจะทำให้รถยนต์เสียหาย
21.2 ผู้เช่าสามารถขับรถยนต์ได้แบบไม่จำกัดระยะทาง แต่ต้องหยุดพักเป็นระยะเมื่อขับทางไกล
21.3 ห้ามนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรไทย
21.4 ห้ามนำรถยนต์ไปใช้เพื่อการขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย
21.5 ห้ามนำรถยนต์ไปบรรทุกเกินกว่าที่คู่มือรถยนต์กำหนด
21.6 ห้ามสูบบุหรี่ในรถยนต์
21.7 ห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นบนรถยนต์
21.8 ห้ามนำสิ่งมีกลิ่น เช่น ทุเรียน ปลาร้า ขึ้นบนรถยนต์
21.9 ต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถ หรือดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ หากมีความเสียหายใดๆเพราะเหตุดังกล่าวไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องรับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมด
21. หน้าที่ของผู้เช่า
22.1 ผู้เช่าต้องขับรถยนต์ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท พักผ่อนเพียงพอและไม่ดื่มแอลกอฮอร์ก่อนหรือ ระหว่างขับรถยนต์
22.2 ผู้เช่าต้องขับรถยนต์ให้ถูกกฎหมายจราจร หากมีใบสั่ง ค่าปรับจราจร เกิดขึ้น ผู้เช่าต้องเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายเอง
22.3 ผู้เช่าต้องรักษา ดูแล จอดรถยนต์ในที่ปลอดภัย ดุจรถยนต์ของตนเอง
22.4 ผู้เช่าต้องไปแจ้งความกับตำรวจ เมื่อรถยนต์ถูกเฉี่ยว ชน แล้วคู่กรณี หลบหนี
22.5 ผู้เช่าต้องไม่อนุญาต หรือ ยินยอม ให้ผู้ที่ไม่มีใบขับขี่รถยนต์ ขับรถคันที่เช่า
22.6 เมื่อรถยนต์มีอุบัติเหตุ ผู้เช่าต้องโทรศัพท์แจ้งเคลมประกันภัย และนำใบเคลมมาให้ผู้ให้เช่าในวันคืนรถยนต์ ถ้าไม่มีใบเครมจะมีค่าบริการให้พนักงาน เปิดเครมให้ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 2,000 บาท
22.7 ผู้เช่าต้องตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี กรณีไม่ถูกต้องให้แจ้งแก้ไขทันที เพราะไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้

ประกันภัย

13. ประกันภัยสำหรับรถเช่า
ผู้ให้เช่าได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
14.1 เมื่อรถยนต์มีอุบัติเหตุ และต้องใช้ใช้รถยก/รถลาก ผู้เช่าต้องจ่ายค่ารถยก/รถลาก เพิ่มเอง
14.2 หากยางรถยนต์รั่ว ผู้เช่าต้องซ่อม ปะยางมาคืนผู้ให้เช่า หากยางแตกผู้เช่าจะต้องซื้อยางรถยนต์เส้นใหม่ ในยี่ห้อและขนาดยางเดิม โดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนมาคืนรถยนต์ หากผู้เช่าไม่ดำเนินการให้เสร็จ จะมีค่าปรับเพิ่มตามที่ผู้ให้เช่ากำหนด
14.3 อุปกรณ์ภายในรถยนต์ทั้งหมด เช่น เอกสารภายในรถยนต์ เบาะรถยนต์ ยางอะไหล่ แม่แรง กุญแจและอื่นๆ หากอุปกรณ์ที่ผู้เช่าทำชำรุดหรือสูญหายในระหว่างการเช่ารถยนต์ ลูกค้าต้องจ่ายค่าปรับทั้งหมดตามรายการที่ผู้ให้เช่ากำหนด
14. ค่าเสียหายส่วนแรก
ผู้ให้เช่ากำหนดให้ผู้เช่าต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) เพื่อเป็นแรงจูงใจเชิงลบ ให้ผู้เช่ามีความระมัดระวังในการขับขี่รถยนต์ พึงรักษารถยนต์ที่เช่าเสมือนรถยนต์ของตนเอง หากผู้เช่านำรถยนต์ที่เช่าไปทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเมื่อผู้เช่าเป็นฝ่ายผิด หรือ ไม่มีคู่กรณี หรือ หาคู่กรณีไม่ได้ รวมทั้งเป็นการประมาทร่วมกัน ผู้เช่าต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกให้กับผู้ให้เช่า โดยอัตราค่าเสียหายส่วนแรก มีดังนี้
14.1 จำนวน 3,000 บาทต่อเหตุการณ์ เมื่อรถยนต์เสียหายเป็นรอยครูด สีถลอก
14.2 จำนวน 5,000 บาทต่อเหตุการณ์ เมื่อรถยนต์เสียหายเป็นรอยบุบ ยุบ แตก
15. ค่าขาดประโยชน์
เมื่อรถยนต์มีอุบัติเหตุ ได้รับความเสียหาย โดยเป็นผลมาจากผู้เช่าเป็นฝ่ายผิด ประมาทร่วม หรือ เป็นฝ่ายถูกแต่หาคู่กรณีมารับผิดชอบไม่ได้ ผู้เช่ามีหน้าที่ต้องจ่ายค่าขาดประโยชน์จากการที่ผู้ให้เช่าต้องนำรถยนต์เข้าไปซ่อมที่อู่ ซึ่งในระหว่างซ่อม รถยนต์ไม่ได้วิ่งทำรายได้ ทำให้ผู้ให้เช่าขาดประโยชน์จากการปล่อยเช่า ผู้เช่าต้องเป็นผู้ชำระค่าขาดประโยชน์ด้วยมูลค่าเท่ากับ จำนวนวันที่เข้าซ่อม คูณด้วย ค่าเช่ารายวัน ที่ผู้เช่าได้ทำสัญญาเช่าไว้
16. รถยนต์หาย
หากผู้เช่านำรถยนต์คันที่เช่าไปทำหาย ไม่ว่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบชำระเป็นเงินให้กับผู้ให้เช่า ตามอัตราที่ผู้ให้เช่ากำหนด แต่จะไม่เกินราคารถยนต์ที่ซื้อมาจากผู้จัดจำหน่ายรถยนต์
17. รถยนต์ไฟไหม้ น้ำท่วม
เมื่อผู้เช่านำรถยนต์คันที่เช่าไปทำให้เกิดไฟไหม้ หรือ น้ำท่วม โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดจากการกระทำของผู้เช่าหรือไม่ เช่าจะต้องรับผิดชอบชำระเป็นเงินให้กับผู้ให้เช่า ตามอัตราที่ผู้ให้เช่ากำหนด แต่จะไม่เกินราคารถยนต์ที่ซื้อมาจากผู้จัดจำหน่ายรถยนต์